แนะนำอุปกรณ์ Mizuno JPX919 + ST190G DRIVERS
เหล็กทั้ง 4 รุ่นของ Mizuno เป็นอย่างไรบ้าง ???
ชุดเหล็กรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Mizuno กับซีรี่ส์ JPX919 ชนิดก่อนงานลอนช์อย่างเป็นทางการเสียอีก โดยต้องขอขอบคุณทางบริษัท ไอซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ส่งชุดเหล็กมาให้เราได้ทดสอบกันครบถ้วนทั้ง 3 โมเดล ประกอบด้วย Hot Metal, Forged และ Tour
ต้องยอมรับว่าชุดเหล็กของ Mizuno โดยเฉพาะตระกูล JPX ในช่วงหลังนั้นได้รับการจับตามองอย่างมาก เมื่อถูกเลือกใช้จากผู้เล่นในทัวร์หลายต่อหลายคน แต่ที่โดดเด่นสุดๆ คงต้องยกให้ บรูคส์ เคปก้า ที่ใช้เหล็ก JPX900 Tour คว้าแชมป์ได้ถึง 3 เมเจอร์ในรอบ 2 ปี
JPX919 ยังคงต่อยอดความสำเร็จของ JPX900 ที่แบ่งออกเป็น 3 โมเดลตามรูปแบบของนักกอล์ฟชัดเจน อีกทั้งแต่ละรุ่นก็จะมีการใช้วัสดุ รวมถึงเทคโนโลยีเฉพาะรุ่นนั้นๆ เพื่อตัวให้ตัวเหล็กมีแคเรกเตอร์เป็นของตัวเองที่เด่นชัดที่สุด ไล่ตั้งแต่ Hot Metal เป็นโมเดลเหล็กที่เน้นคุณสมบัติการสร้างระยะทางอย่างเต็มที่ ด้วยจุดเด่นที่การสร้างแรงดีด COR และขนาดพื้นที่ของ COR ที่สูงสุด แต่ขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญ MOI, มุมเหิน และคุณสมบัติตีง่ายด้วยเช่นกัน โดยเป็นเหล็กใบใหญ่หนา แต่มีดีไซน์แบบไล่ระดับ ที่ให้ความกะทัดรัดเหมาะกับการใช้งานมากขึ้นในเหล็กทำสกอร์
JPX919 Forged เป็นเหล็กที่ไม่ใช่แค่ถูกพัฒนาด้าน COR ให้ดียิ่งขึ้นแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังถูกพัฒนาให้ผสมผสานทั้งด้านประสิทธิภาพและความนุ่มนวลเข้ารวมกันได้อย่างลงตัวมากที่สุด จุดเด่นสำคัญคือการใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบ Grain Flow Forged HD (High density) รวมถึงตัววัสดุ 1025 Boron ทำให้สามารถออกแบบได้บาง, ร้อนแรง และยืดหยุ่นได้มากขึ้น รวมถึงยังทำให้การออกแบบสามารถจัดวางน้ำหนักได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ส่วนโมเดลสุดท้ายคือ JPX919 Tour โมเดลเด่นของตระกูล ด้วยการเลือกใช้ของผู้เล่นของนักกอล์ฟในทัวร์ และการพัฒนาประสิทธิภาพของเหล็กรุ่นนี้ก็มาจากฟีดแบ็คของผู้เล่นเหล่านั้น โดยใช้เทคโนโลยี Grain Flow Forged HD (High density) เช่นกัน ขณะที่ดีไซน์เป็นแบบทัวร์อย่างแท้จริง ด้วยรูปแบบใบบางหลังตัน รวมถึงออกแบบให้บางยิ่งขึ้นในรุ่นนี้ เพื่อให้มุมมองการจรดลูกตามที่นักกอล์ฟมือดีนั้นต้องการมากยิ่งขึ้น
Mizuno ST190G DRIVERS
ST190G มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นหัวไม้ที่ตีง่าย ปรับแต่งได้ และช่วยเพิ่มระยะให้กับนักกอล์ฟอย่างแท้จริง ด้วยการถูกสร้างให้เป็นไดรเวอร์ที่ให้อัตราสปินต่ำที่สุดเท่าที่ Mizuno เคยผลิตมา ทุกองค์ประกอบที่เข้ามาช่วยในการสร้างสปีดและเพิ่มระยะทางในการไดร์ฟ ไม่ว่าจะเป็นหน้าไม้ความเร็วสูง Forged SP700 Ti face และโครงสร้างหน้าไม้ CORTECH ที่ทั้งเบา และให้อัตราบอลสปีดที่สูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ตัวกระดองยังประกอบไปด้วยส่วนกระดองคาร์บอนคอมโพซิท ที่ช่วยให้ออกแบบจัดวางจุดศูนย์ถ่วงให้ดียิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่ทำให้ ST190 ถูกจับตามองอย่างมาก นั่นก็คือ การที่หัวไม้รุ่นนี้เป็นรวมสองเทคโนโลยีเด่นจากสองซีรี่ส์ของ Mizuno เข้ามาผสานกัน นั่นคือเทคโนโลยี Amplified Wave Sole จากซีรี่ส์ ST ก่อนหน้านี้ ที่มีการออกแบบฐานของหัวไม้ให้เป็นรูปคลื่น ซึ่งคล้ายกับการทำงานของสปริงที่จะช่วยเสริมการเด้งของหน้าไม้ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะตีโดนกลางหน้าไม้หรือไม่ก็ตาม เสริมด้วย Fast Track Technology จากฝั่งซีรี่ส์ JPX (ที่หลังจากนี้เราได้รับข้อมูลจาก Mizuno ว่าจะไม่มีซีรี่ส์นี้แล้ว เพื่อหันมาปั้นซีรี่ส์ ST เต็มตัว) กับร่องเลื่องถ่วงน้ำหนักที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีความ Aggressive มากยิ่งขึ้น สำหรับปรับแต่งไฟลท์บอลให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้วิถีของลูกต่ำหรือโด่ง และปรับทิศทางซ้ายขวาได้ตามต้องการและตามวงสวิงของนักกอล์ฟแต่ละคน
นอกจากนี้ใน ST190 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Harmonic Impact Technology การออกแบบที่สร้างให้เสียงการอิมแพ็คมีความหนักแน่นและทรงพลัง รวมถึงระบบปรับองศาที่คอไม้ได้ตั้งแต่ 8.50-12.5 องศา ส่วน ST190G สามารถปรับองศาได้ถึง 5 แบบ ตั้งแต่ 7-11 องศา